วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

House of M #4


House of M #4
เรื่อง : Brain Michael Bendis
ภาพ : Olivier Coipel

Wolverine โดนพวก Luke Cage พาตัวมาเพื่อสอบถามเรื่องบางอย่าง เขาจะสามารถพลิกวิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาส เพื่อรวบรวมพวกพ้องได้หรือไม่ 


Genosha, ปราสาทของ Magnus

มันคือปราสาทของผู้ปกครองที่นี่ ประดับไปด้วยธงสัญลักษณ์ตัว M และมีชายคนหนึ่งกำลังเดินออกมา ซึ่งเขาสวมใส่อาภรณ์ชั้นสูง ที่แสดงถึงฐานะของเขา และคนผู้นี้ก็คือ Magneto : Erik Magnus Lehnsherr ผู้ปกครองอาณาจักรนี้นั่นเอง เขาเดินออกมามองวิวทิวทัศน์ในเมืองที่เขาปกครองอยู่นี้ ก่อนจะมีเสียงเล็กๆทักเขาขึ้นมา

??? : คุณปู่

??? : ผมทำไอ้นี่มาให้ จากใจผมเลยนะ

Magneto หยิบมันขึ้นมา และมองดูมันกับหน้าหลายชายคนนี้ สีหน้าของเขานั้นนิ่งเงียบไม่ไหวติง



Hell Kitchen, New York City

Hawkeye : ทำตามที่เขาบอก พวกเรารู้ว่านายคือคนของหน่วยชิลด์!! นายคือกองกำลังรักษาความปลอดภัยระดับขั้นสีแดงไม่ใช่หรือไงกัน

Cage : แล้วแกก็เพิ่งจะเรียกฉันว่า เคจ นี่แกรู้จักชื่อของฉันได้ยังไงกัน

Wolverine : เคจ ฉันต้องการให้นายบอกให้ทุกๆคนสงบลงก่อน แล้วฉันจะได้...

Hawkeye : ก็ได้ 

Hawkeye จ้องตา Wolverine อยู่พักนึง ก่อนจะยิงลูกศรออกไปทำลายเครื่องส่งสัญญาณที่คอของเขาจน Wolverine ลงไปนอนอาบเลือดทันที

Cage : เฮ้ย บาร์ตั้น

Hawkeye : ฉันเบื่อที่จะให้โอกาสไอ้พวกมิวแทนส์พวกนี้แล้ว พวกเราต้อง...

Cage : แกยังไม่ทันจะให้โอกาสหมอนั่นซัก... ครั้ง

จากนั้น Wolverine ก็สลบไป 


ผ่านไปซักพัก Healing Factor ของเขาก็ทำงาน Wolverine ก็ค่อยๆฟื้นขึ้นมา โดยที่ทั้ง Hawkeye กับ Luke Cage ยังทะเลาะกันอยู่ 

Cage : นี่พ่อตาเหยี่ยว แกรู้ใช่มั้ยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นที่นี่

Hawkeye : แล้วนายล่ะรู้มั้ย 

Cage : พวกเราต้อง...

Hawkeye : ฉันคิดดีแล้วนะจะบอกให้...

Cage : คลินท์ มันมีพวกเด็กๆอยู่ในนี้ด้วยนะ!!

Hawkeye : แล้วไอ้เจ้าเครื่องแกะรอยนั่นมันก็กำลังจะพาพวกกองกำลังทหารสีแดงตรงมาหาพวกเราเหมือนกัน...

หลังจากผ่านไปสักพัก Wolverine ก็ลุกขึ้นมาได้


Wolverine : นี่ฉันสลบไปนานแค่ไหนเนี่ย

Felicia : นี่นายยังรอดอยู่ได้ไงเนี่ย

Wolverine : ช่างมันเหอะน่า ฉันถามว่านานแค่ไหนแล้ว!!

Misty Knight : สะ...สามสิบวินาที 

Wolverine : ช้าไปแล้วสิ

Hawkeye : อะไรช้าไป พูดให้เข้าใจหน่อยสิว่ะ

Wolverine : ก็ถ้าพวกแกอยากจะคุยกับฉัน แกก็น่าจะงัดเอาไอ้เครื่องแกะรอยที่อยู่หลังคอของฉันออกก่อนจะพาตัวฉันมาน่ะสิโว้ย

Misty Knight : แต่นายเพิ่งจะมาถึงที่นี่ได้แค่ครึ่ง...

และก่อนที่ Misty Knight จะพูดจบหลังคาก็โดดถล่มทันที

และที่มาก็คือ Sentinel ระดับขั้นสีแดงจำนวน 2 เครื่อง

“ยืนยันเป้าหมายพวกมนุษย์”

“ทำการล็อคเป้าหมาย”

“เริ่มทำการโจมตี”

เมื่อเห็นท่าไม่ดี Wolverine รีบวิ่งเข้าไปหาเด็กที่อยู่ในกลุ่มนั้นทันที ก่อนที่ Cloak จะรีบวิ่งมาช่วยเหลือเพื่อนพ้อง แต่เหล่า Sentinel ก็กำลังจะทำการโจมตีเข้ามา

“ทำการโจมตีได้”

ลำแสงของมันยิงเข้าใส่ภายในนั้นทันที และทำให้เหล่าผู้คนล้มตาย รวมถึง Misty Knight ด้วย แต่กลับปราศจากศพของพวก Wolverine และ Luke Cage 

“ไม่สามารถระบุที่อยู่ที่แน่ชัดของพวกมนุษย์ได้ ไม่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับมาต่อไปได้”


บนห้องทำงานของตึกแห่งหนึ่ง Cloak ปรากฏตัวขึ้นมาจากเงาของตึก และปลดปล่อยพวกเพื่อนๆของเขาที่เขาสามารถช่วยไว้ได้ออกมา 

Wolverine : ไม่เป็นไรนะ แม่หนู

Layla : ที่นี่ที่ไหน? มันเกิดอะไรขึ้น? หนูเป็นใคร?

??? : นี่พวกเราอยู่ที่ไหนกันเนี่ย (อันนี้ไม่รู้ใครจริงๆ ไม่คุ้นหน้าตา ตามเว็บก็ไม่มีบอก)

Cloak : บนตึกใกล้เคียง มันเป็นสถานที่เดียวที่ฉันคิดออกว่าจะพาพวกเรามาได้ มันคือห้องทำงานของ วิลสัน ฟิสค์ หรือพวกนายรู้จักในนาม คิงพิน

Danny : โอ้ เยี่ยมเลย 

Cloak : มันเป็นที่เดียวที่ฉันแน่ใจว่ามันจะว่างเปล่าไร้ผู้คน

Danny : นี่นายพาพวกเราออกมาทุกคนหรือเปล่า

Hawkeye : พระเจ้า นี่พวกเราพลาดกับ...

Felicia : นี่พวก พวกเรามองเห็นเฮลส์ คิทเช่นได้จากที่นี่นะ

และจากที่เขาเห็นมันเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงที่นั่น และตอนนี้ Sentinel ทั้ง 2 ตัวก็ทำการจากไป

Cage : พวกเราทำพลาด

Cloak : ฉะ... ฉันพยายามพามาให้ได้มากที่สุดแล้ว

Cage : ฉันไม่ได้จะโทษนาย นายทำดีที่สุดแล้ว

Claok : ฉันจะลองย้อนกลับไปดู

Cage : ไม่ล่ะ ไม่ต้องหรอก

Hawkeye : ใช่ อย่าเลย

Felicia : เพราะทั้ง เอ็บ และคนอื่นๆคงจะไม่รอดแล้วล่ะ

Cage : ให้ตายสิ มิสตี้ โธ่เว๊ย

??? : นายต้องการเวลาสักหน่อยมั้ย ลุค

Cage : เจ้ามิวแทนส์ หวังว่าแกจะมีค่าพอสำหรับเรื่องนี้จริงๆนะ 

Wolverine : เคจ นายคิดว่ามันกำลังเกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่

Cage : แล้วแกคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันเล่า 

Wolverine : ฉันรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันคิดว่าพวกนายจะต้องไม่เชื่อฉันแหงๆ 

Cage : ลองเล่ามาสิ

Wolverine : อย่างแรกเลย นายรู้จักฉันมั้ย

Cage : ไม่ว่ะ

Wolverine : งั้นทำไมแกพาตัวฉันมา แกจะพาตัวฉันมาที่นี่ทำไมกัน?

Cage : ก็พวกเรามีแหล่งข่าว...จากข้างในเฮลิแคเรี่ยร์ ซึ่งมันบอกมาว่านายหนีออกจากหน่วยชิลด์เมื่อวานนี้ เลยคิดว่ามันมีค่าที่จะลองเสี่ยงดู หน่วยพิทักษ์ระดับดาวแดง เจ้าหน้าที่ วูฟเวอร์รีน โดดลงจากยาน 

Cage : มันทำให้ฉันคิดว่ามันน่าสนใจที่จะได้ลองคิดถึงสิ่งที่ฉันได้ยินมา และคิดว่ามันคงจะมีค่ามากพอดูที่จะได้คุยกับนาย เลยรอให้นายโผล่หัวออกมา ซึ่งก็ไม่นานมากนัก

Wolverine : งั้นนายพอจะจำได้มั้ยว่าพวกเราคือ อเวนเจอร์ส 

Cage : มันคืออะไรว่ะ


Wolverine : งั้นก็ได้ ฉันจะบอกในสิ่งที่ฉันบอกได้ แต่ก็ไม่คิดว่าพวกแกจะเชื่อหรอกนะ เมื่อไม่นานมานี้ ประมาณ 2 วันก่อน ฉันเป็นสมาชิกของเอ็กซ์เม็น และสมาชิกของอเวนเจอร์สที่เพิ่งตั้งใหม่ด้วย 

Wolverine : ซึ่งมันอาจจะไม่มีความหมายอะไรกับพวกนาย เพราะพวกนายจำอะไรไม่ได้ แต่มันมีสมาชิกอเวนเจอร์รุ่นเก่าอยู่หลายคน ฉันอาศัยอยู่ในโลกที่พวกมิวแทนส์เป็นประชากรส่วนน้อย และพวกเอ็กซ์เม็นก็พยายามที่จะสร้างสันติสุขขึ้นมาเพื่อให้เกิดความปรองดองและการอยู่ร่วมกันของระหว่างสองเผ่าพันธุ์ นั่นคือมิวแทนส์ที่กำลังเติบโตมากขึ้น กับเหล่าผู้คนธรรมดาทั่วไป ...ที่ไม่เคยที่จะหยุดคิดใส่ร้ายและเล่นงานพวกเรา

Wolverine : ก็ไม่อยากจะบอกว่ามันคือชีวิตที่ดูเลวร้ายหรอกนะ แต่พวกเราก็พยายามทำให้ดีที่สุด มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นฉัน ฉันโดนกลุ่มรัฐบาลที่ต่อต้านมิวแทนส์ทำสิ่งนี้กับฉัน...

จากนั้น Wolverine ก็ชักกรงเล็บที่เคลือบอดาแมนเที่ยมขึ้นมา

Wolverine : ...โดยที่ไม่สนใจความคิดของฉัน 

Felicia : ยี้

Wolverine : ฉันโดนลบความทรงจำหลายต่อหลายครั้ง จนฉันแทบจะจำไม่ได้เลยว่าฉันมาจากไหน หรือฉันอายุเท่าไรกันแน่

Wolverine : ตอนนี้เมื่อฉันมาคิดถึงมัน... ฉันได้รับโอกาสที่จะทำในสิ่งที่ดีขึ้นด้วยเจ้าสิ่งนี้ และมันก็แค่นั้นแหละ (แต่ถ้าฉันยังอยู่ที่นี่มันก็...) หนึ่งในเอ็กซ์เม็นที่สร้างปัญหามากที่สุดในโลก นั่นคือ อีริค แม็กนัส หรือในชื่อ แม็กนีโต้ เพราะเขาสามารถที่จะควบคุมแม่...

Hawkeye : ใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นใครน่า

Wolverine : ก็ได้ งั้นเอาเป็นเขามีลูกแฝด

Hawkeye : เอ้อ นั่นก็รู้อีกแหละ

Wolverine : งั้นวานด้าล่ะ...

Hawkeye : เธอเป็นมนุษย์ธรรมดายังไงล่ะ

Wolverine : อะไรนะ?

Hawkeye : เพโทร ลอร์น่า และวานด้า ในบรรดาลูกๆของเขา วานด้าเป็นมนุษย์ธรรดาเพียงคนเดียว 

Wolverine : หมายความว่าไงว่ะเนี่ย

Hawkeye : มันแทบจะลงในหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวันเลยนะ ที่ว่าผู้นำของชาวมิวแทนส์ดันมีลูกเป็นมนุษย์ และเขาก็เลี้ยงเธอมาเหมือนกับลูกคนอื่นๆ อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน มันสร้างความสนใจให้แก่ทุกๆคนที่ได้อ่านเลยล่ะ

Wolverine : เออ ไงดีล่ะ เมื่อวานซืน วานด้า แม็กซิมอฟ ยังคงเป็นมิวแทนส์ที่เรียกตัวเธอเองว่า สการ์เล็ต วิซช์ อยู่เลย และยิ่งกว่านั้นก็คือ เธอมี ”พลัง” เวทมนต์ที่แกร่งกล้ายิ่งกว่าใครๆ และมากเกินกว่าที่เธอจะควบคุมได้เสียด้วย พวกนายพอจะรู้หรือยังล่ะว่าเธอทำอะไรได้

Hawkeye : ไม่เลย

Wolverine : เธอสามารถพังทลายโลกรอบๆตัวเธอได้เลย ทั้งตรงนี้และตรงนั้น เข้าใจมั้ย ทั้งตรงนี้และตรงนั้นเลยนะ!

Cage : นั่งลงแล้วพูดต่อไป

Wolverine : เธอเสียสตีไปเมื่อไม่นานมานี้ และสังหารเหล่าคนดีไปเป็นจำนวนมาก เธอเคยเป็นอเวนเจอร์ส และ...

Cage : เหมือนกับฉันน่ะเหรอ

Wolverine : ไม่ ยิ่งกว่านายอีก เธอเป็นรุ่นแรกๆที่เกือบจะแรกสุดเลยทีเดียว เธอเป็นสาเหตุที่ทำให้บางคนในพวกเขาเลิกที่จะเป็นอเวนเจอร์อีกด้วย 

Wolverine : เธอเกิดเสียสติหรือเป็นอะไรสักอย่าง และเข้าเล่นงานทีมของเธอเอง ฆ่าพวกเขาไปเกือบครึ่ง เมื่อ 2 วันก่อน ทั้งเอ็กซ์เม็นและอเวนเจอร์สมารวมตัวกันเพื่อคิดหารือกันว่าจะทำอะไรกับเธอดี ...เพราะเธอไม่สามารถควบคุมตัวเองและเริ่มจะเสียสติไปจริงๆแล้ว

Wolverine : เธอเข่นฆ่าเหล่าฮีโร่ที่มีชื่อเสียง... พวกเราเลยเลือกที่จะไปยังเจโนชา ในที่ซึ่งแม็กนีโต้ซ่อนตัวเธอไว้ และตอนที่พวกเราไปถึง... ทุกๆอย่างก็ขาวโพลนไปหมด และฉันก็ตื่นขึ้นมาอยู่ที่นี่

Cage : ขาวโพลนเลยเหรอ?

Wolverine : ใช่ทุกๆอย่างมันกลับตาลปัดไปหมด แม็กนีโต้ผันตัวเองจากผู้ที่ถูกเนรเทศกลายเป็นราชาผู้ปกครองโลกใบนี้ มันไม่มีทั้งเอ็กซ์เม็นและอเวนเจอร์ แล้วมิสแทนส์ก็ปกครองโลกใบนี้ มันคือสรวงสวรรค์ของเหล่ามิวแทนส์ และโดนแกเอาธนูมาจ่อที่คอฉันเนี่ยแหละ 

Hawkeye : งั้นฉันล่ะ ฉันเป็นยังไงก่อนที่โลกจะกลายเป็นสีขาวโพลน

เมื่อ Hawkeye ถามมา Wolverine ก็คิดก่อนเล็กน้อยว่าจะพูดดีมั้ย และเมื่อตัดสินใจได้เขาก็พูดออกมา

Wolverine : ตายไปแล้ว แก คลินท์ บาร์ตั้น ฮอร์คอาย โดนนังแม่มดฆ่าไปเมื่อ 2 เดือนก่อน

Layla : หนูไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง

Hawkeye : ไปตายซะ

Wolverine : มันยังจะมีมากกว่าที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้อีกหรือไงกัน?

Felicia : เคจ นี่มัน... นี่มันต้องเป็นแผนการของพวกมิวแทนส์ที่จะทำให้พวกเรา...

Cage : มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน เฟลิเซีย พวกนั้นคือพวกเรา และฉันก็กำลังจะมีลูก นั่นคือที่ฉันเห็น

Wolverine : ใช่ นั่นนายกับเจสซิก้า เดี๋ยวนะ...นายเห็น...

Cage : ถ้าแกโกหกฉันละก็...

Danny : เจสซิก้า นั่นใครกันน่ะ

Wolverine : เดี๋ยวก่อน... พวกนายเห็นอะไร? แล้วพวกนายนี่ มูน ไนท์?กับ ไออ้อน ฟิสท์ ใช่มั้ย? แล้วตอนนี้พวกนายเป็นใครกันมั่งล่ะ

Cage : พวกเราก็แค่คิดที่จะสร้างสมดุลขึ้นมา..จากใต้ดิน พยายามที่จะทำให้แน่ใจว่ามนุษย์ธรรมดาจะได้รับสิ่งที่เท่าเทียมกันบนโลกใบนี้

Wolverine : นั่นก็เป็นสิ่งที่คิดว่าพวกนายน่าจะทำล่ะนะ นายด้วย แล้วก็นายด้วย

Danny : นายรู้จักพวกเราเหรอ

Wolverine : แน่นอน นาย แดนนี่ พี่หมัดเหล็ก (Iron Fist) ฉันรู้จักนาย 

Marc : แล้วพวกเราจะต้องทำยังไงล่ะ ถึงจะสามารถนำโลกใบเดิมกลับมาได้

Wolverine : เดี๋ยวนะ นี่พวกนายเชื่อฉันจริงดิ

Cage : เออสิ 

Wolverine : เพราะอะไรกัน

Cage : เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นมั้ย เมื่อวานนี้เธอโผล่มาหาฉันผ่านทางแสงสีฟ้า และพูดแบบเดียวกับที่นายพูดเป๊ะเลย ทั้งเอ็กซ์เม็น อเวนเจอร์ส และฮอร์คอายตาย... เธอไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่เธอรู้ว่ามันเกิดขึ้น ในทุกๆรายละเอียดเลยล่ะ

Cage : แล้วจากนั้นฉันก็มองเห็นมันด้วยตัวฉันเอง ลูกของฉัน ลูกสาวตัวน้อยของฉัน ชีวิตของฉันที่ไม่ใช่แบบในตอนนี้ ฉันเห็นมันภายในจิตใจของฉัน มันกระจ่างชัดมากกว่าสิ่งที่ไหนที่ฉันเคยเห็นหรือได้รับรู้เสียอีก

Wolverine จึงตรงไปหาเธอเพื่อที่จะพูดคุยด้วย

Wolverine : เธอชื่ออะไรเหรอ

Layla : ละ...เลย์ล่า

Wolverine : เหมือนชื่อเพลงเหรอ

Layla : ไม่ค่ะ

Wolverine : เธอมาจากไหนเหรอ


Layla : หนูกับครอบครัว...พวกเราอาศัยอยู่ที่เฮลส์ คิทเช่น แล้วพอหนูตื่นขึ้นมาเมื่อวานนี้ ทุกๆอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป มันดู...ผิดแปลกไปหมด ... และไม่มีใคร...ไม่มีใครเลยรู้ว่ามันเกิดขึ้น? หนูหมายถึง...

Wolverine : เธอได้ยินความคิดของฉันมั้ย

Layla : หนู...ไม่ค่ะ...อะไรนะ?

Wolverine : แต่เธอก็จำเรื่องราวต่างๆได้

Layla : ใช่ค่ะ หนูหมายถึงหนูตื่นขึ้นมาแล้วทุกๆอย่าง... ทีแรกหนูก็คิดว่าหนูคงจะบ้าไปแล้ว ครอบครัวของหนูน่ะเหมือนเดิม แต่ทุกๆอย่างมัน... หนูหมายถึงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ตกลงนี่หนูบ้าไปแล้วจริงหรือเปล่า?

Wolverine : ไม่หรอกเธอไม่ได้บ้าแน่นอน

Layla : จริงเหรอค่ะ

Wolverine : ก็ถ้าเธอบ้า พวกเราก็คงจะบ้าทั้งคู่นั่นแหละ

Layla : เยี่ยมเลย

Felicia : เฮ้ พ่อขนดก ทำไมนายถึงคิดว่าทั้งนายและแม่หนูจดจำโลกที่แท้จริงได้ล่ะ ( โอ และฉันก็ยังคิดว่ามันเป็นแผนของมิวแทนส์อยู่จริงๆนะเนี่ย)


Wolverine : ก็อย่างที่ฉันพูดไปแล้ว... ว่าหลายปีที่ผ่านมา ฉันโดนลบความทรงจำไปหลายต่อหลายครั้ง ฉันจดจำตัวเองไม่ได้เลยจนกระทั่งมันถึงช่วงเวลาที่ถูกต้อง จดจำไม่ได้ทั้งตัวเองมาจากไหน... ฉันอายุเท่าไร...และครอบครัวเป็นใครบ้าง แต่เมื่อ 2 วันก่อน จู่ๆฉันก็ตื่นขึ้นมาและจดจำได้ทุกอย่าง ทุกความทรงจำในชีวิตองฉัน สิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดจนถึงตอนนี้ และทั้งหมดนั่นสำหรับฉันแล้ว...

จากนั้น Wolverine ก็มองไปยัง Layla และหยุดพูดไป

Cage : อะไรล่ะ ต่อให้จบสิ มันค้างคานะว้อย?

Wolverine : ทั้งหมดนั่น คือสิ่งที่ ฉัน... ต้องการมาตลอด

Wolverine : แม็กนีโต้สั่งให้ลูกสาวของเขามอบทุกๆอย่างที่พวกเราต้องการให้พวกเรา ...แล้วเขาก็จะได้ในสิ่งที่เขาต้องการเช่นกัน 

Cage : แล้วหมอนั่นรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าพวกเราต้องการอะไร?

และเมื่อ Luke Cage พูดขึ้นมา Wolverine ก็คิดได้

Wolverine : ชาร์ล... 

Wolverine : มันมีสมุดโทรศัพท์อยู่แถวนี้บ้างมั้ย?

ที่อยู่ของครอบครัวซัมเมอร์

Cloak โผล่ออกมาจากเงา และพาทุกๆคนออกมาจากเงาของเขา 

Wolverine : ผ่อนคลายกันหน่อยก็ได้น่า ไม่มีอยู่ที่นี่หรอก

Felicia : ใครเป็นเจ้าของบ้าน

Wolverine : เพื่อนฉันน่ะ (คิดว่างั้นนะ)

และเมื่อ Wolverine มองเห็นภาพการแต่งงานของทั้งคู่ก็ต้องสบถออกมา 

Wolverine : ไม่จริงมั้งเนี่ย

Wolverine : เอาล่ะแม่หนู พร้อมจะเปลี่ยนหรือยังล่ะ 

Layla : ยะ...ยังค่ะ

Wolverine : ก็แค่ทำแบบที่เธอทำกับลุคเคจกับเอ็มม่าฟอรสส์แค่นั้นแหละ เธอมีสมองขนาดใหญ่ ดังนั้นเธอสามารถรับมือกับสิ่งที่เธอจะทำ...

Layla : ตะ...ตะ...ตะ...แต่ หนูไม่รู้ว่าต้องทำยังไง

Wolverine : อย่าไปคิดถึงมันมากน่า

และยิ่งพูดเขายิ่งทำให้ Layla สติกระเจิงไปหมด จนทำตัวไม่ถูก

Layla : นี่มันไม่ใช่ที่ที่หนูควรจะไป... หนูยังต้องฝึกฝน หนูไม่ควรจะ...

Wolverine : นี่แม่หนู ทำไมเธอถึงเลือกที่จะมาเคจล่ะ ทำไมต้องเป็นเขา 

Layla : ก็หนูอยู่ที่ เฮลส์ คิทเช่น ตอนแรกหนูคิดว่าจะไปหา แดร์เดวิล แต่หนูก็พบเขาก่อน และหนูก็... มองไปยังเขาแล้ว... หนูคิดว่าต้องบอกใครสักคน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

Wolverine : เธอเป็นมนุษย์กลายพันธุ์นะแม่หนู สุขสันต์วันเกิดด้วยล่ะ 

แล้วเขาก็สัมผัสถึงสิ่งที่เขารอคอยได้

Wolverine : เธอมาแล้ว ทำตัวดีๆกันหน่อยล่ะ



Emma เดินเข้ามาในบ้าน พร้อมโดนปืนหลายกระบอกจ่อเข้าใส่

Wolverine : ไง ดีใจที่ได้เจอนะ... เอ็ม

Emma : พวกนายคิดที่จะปล้นฉันเหรอ?!! อ้อใช่แล้ว อย่ากังวลถึงเรื่องที่ตอบฉันไม่ได้ เพราะฉันบอกสมองของพวกนายให้ทำในสิ่งที่ฉันอยากจะให้มันทำ นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันทำ และฉันไม่ต้องการได้ยินอะไรจากปากของพวกแก

เธอทำให้พวก Wolverine นิ่งเงียบขยับอะไรไม่ได้

Emma : พวกนายรู้ใช่มั้ยว่าเขาจะทำอะไรกับพวกมนุษย์ที่... เดี๋ยวก่อนนะ นั่นมันอะไรกัน? แกเพิ่งจะคิดอะไรออกมา? แกรู้จักฉันได้ยัง?

Wolverine : เธออยู่ในหัวของฉันไม่ใช่เหรอไง มองเข้าไปสิ

Emma : นี่มันบ้าอะไรกัน? อะไรนะ?

Layla : หนู...หนูไม่ได้พูดอะไรเลยนะ

Emma จ้องมองไปยัง Layla แล้วพลังของเธอก็ทำงาน 


มันทำให้ Emma เห็นทุกอย่างในชีวิตของเธอ ตั้งแต่ตอนเด็ก ตอนที่เธอเป็น White Queen ของ Hellfire Club และช่วงเวลาแห่งความสุขของเธอกับสก๊อตต์ ตอนนี้เธอจดจำทุกๆอย่างได้แล้ว

Emma : ชาร์ล


เธอเห็นภาพของ Charles ที่อยู่กับคนกลุ่มหนึ่ง และเห็นภาพที่เขาร่ำไห้ด้วยความหวาดกลัว

Emma : ม่ายยยยยยยยยยยยย

และเธอก็หลุดออกมาจากห้วงความนึกคิด 


Emma : ไม่จริง โลแกนนี่นายคิดจะ #$#@+ กับฉันงั้นเหรอ

Wolverine : พยุงตัวเองไว้ก่อน

Cage : เด็กไม่เป็นไรแล้ว มันเกิดอะไรขึ้น

Wolverine : เธอคนนี้คือ เอ็มม่า ฟรอสส์ หนึ่งในผู้นำของเอ็กซ์เม็น

Emma : ตระกูลแม็กนัสงั้นเหรอ!! ตระกูลแม็กนัสงั้นเหรอ??!! โลแกนพวกเราต้องตามหาตัวแม็กนีโต้และ... ใช่แล้ว นั่นแหละ!! นั่นไงล่ะ!! พวกเราจะฆ่ามันซะ รวมไปถึงลูกๆของมันด้วย!

Wolverine : ได้เลย ฉันไม่มีปัญหาอะไรเลยสำหรับเรื่องนั้น

Wolverine : แต่ว่า... พวกเราต้องมีพรรคพวกมากกว่านี้ และถ้าพวกเราจะทำ... มันก็ไม่ได้ทำให้เจ้าโลกเฮงซวยนี่...เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหรอกนะ

โปรดติดตามตอนต่อไป

สปอยโดย : Bank-Genesis //เท่านั้น ผมแค่ทำการรีรูปใหม่นะครับ

House of M #3


House of M #3
เรื่อง : Brain Michael Bendis
ภาพ : Olivier Coipel

เมื่อ Logan กลายเป็นคนเดียวที่รับรู้ว่าโลกใบนี้มันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เขาจะทำอย่างไร


Wolverine ที่กำลังสับสน แต่จู่ๆความทรงจำต่างๆที่ผ่านมาก็ประดังเข้าในหัว ตอนที่เขาร่วมมือกับ Cap เพื่อสู้กับเหล่านินจา การทดลองที่ทำให้เขากลายมาเป็นอย่างทุกวันนี้ และการต่อสู้กับ Hulk


Jean ที่กลายเป็น Dark Phenix เรื่องราวต่างๆของเขาที่เริ่มจดจำได้ผลักดันมาสู่ ก่อนหน้านี้ที่ Xavier เดินทางมาขอคำปรึกษาจากพวกเขา และเดินทางมายัง Genosha


Logan : ไปตามหาเซเวียร์แล้วออกไปจากที่บ้าๆนี่กัน

Mystique : อะไรล่ะนั่น เจมส์ นี่คุณเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะฉันคิดว่าคุณกำลังทำให้…

Logan : ฉันจำได้หมดแล้ว ทุกๆอย่างเลย ในชีวิตของฉัน

Mystique : นี่เรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่เนี่ย

Logan : เมื่อวานนี้พวกเราทำอะไรกัน

Mystique : อะไรนะ การเปรียบเทียบเหรอ

Logan : ฉันถามว่าเมื่อวานพวกเราทำอะไรกัน

Mystique : ก็ภารกิจสำเร็จลงด้วยดี… อย่า…หรือนี่เป็นเพราะมีผู้รับเคราะห์หรือเปล่า นั่นมันดูไม่เหมือนกับนายเลยนะ อย่า…อย่าโทษตัวเองเพราะเรื่องแบบนั้นสิ พวกเขามันก็แค่พวกมนุษย์หน้าโง่เท่านั้นแหละ

Logan : แล้วมันเกิดอะไรขึ้นที่ Genosha

Mystique : อันนั้นฉันเองก็ไม่รู้ ฉันยังไม่ได้รับรายงานอะไรเลย มันมีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ ท่านลอร์ด แม็กนัส ปลอดภัยหรือเปล่า

หลังจากที่ Logan ได้ฟังคำพูดสุดท้ายก็ทำให้เขาตกใจ


ภาพความทรงจำอันเรืองรางปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง

Logan : โอ้พระเจ้าช่วย… เซเวียร์…

Mystique : มันมีอะไรแปลกๆในสมองของคุณหรือเปล่า เราน่าจะไปหามาดามเว็บ—เพื่อทำให้คุณดีขึ้นได้นะ และนั่นแหละคือเหตุผลว่าเรามีเธอไว้ทำไม และคุณเองก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ชิลด์ คนแรกหรอกนะที่ได้รับการปรับแต่งน่ะ ไม่มีอะไรให้ต้องอายหรอกน่า

Logan ที่ฟังอยู่เงียบๆได้ตัดสินใจบางอย่าง เขาโดดลงไปจาก Hericarrier


การตัดสินใจอย่างฉับพลันของเขาทำให้ Mystique ตกใจเป็นอย่างมาก และกังวลถึงเขาเช่นกัน เพราะเขาไม่มีร่มชูชีพหรืออะไรแม้แต่น้อย เขาค่อยๆดิ่งลงไปและตกลงไปชนกับตึกแห่งหนึ่ง


เขารอด และเมื่อมองออกไปมันกับกลายเป็นโลกที่เขาไม่รู้จัก

Logan : นี่มันเกิดอะไรขึ้นว่ะเนี่ย


บนหนังสือพิมพ์ ปรากฏรูปหน้า Magneto พร้อมข่าวพาดหัวถึง “งานใหญ่ของ House of Magnus”


ซึ่งมันจะมีงานที่ยิ่งใหญ่ในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งได้เชิญ เจ้าหญิง Ororo และเจ้าชาย Namor มาร่วมงานด้วย

และข่าวคราวของ Spider-man ที่ถูกรู้จักในชื่อ Peter Parker แล้ว และลูกของเขา

คนขาย : เฮ้ย พ่อมนุษย์หมาป่า


คนขาย : แกจับแกต้องซื้อนะโว้ย

Logan ยืนอ่านข่าวอยู่หน้าร้านหนังสือพิมพ์นั่นเอง และเขาก็เดินไปหาคนที่เพิ่งขี่มอเตอร์ไซต์มาจอดข้างๆ

Logan : โทษทีนะแต่ฉันต้องขอยืมมอเตอร์ไซต์ของแกหน่อยว่ะ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องส่วนตัวหรอก

เจ้าของ : ไงนะ

Logan : เขยิบตูดออกไปให้ไวและ…

เจ้าของ : ไปลง…

Logan ไม่อยากพูดมากอีก เลยส่งหมัดเดียวให้เจ้าคนที่ไม่ยอมฟังคำขอของเขาลงไปนอนกองกับพื้นและขี่มอเตอร์ไซต์ออกไปทันที


และเขาก็ตรงมายังที่แห่งหนึ่งกลางดึกเพื่อลอบเข้าไปด้านใน


และค่อยเดินเข้าไปในบ้านขึ้นไปยังชั้นบน เพื่อพบกับเจ้าของบ้านและอุดปากเขาไว้เพื่อกันเขาส่งเสียงดัง

Logan : ชาร์ล เซเวียร์อยู่ที่ไหน


เจ้าของบ้าน : คะ…ใครนะ

Logan : อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ ชาร์ล เซเวียร์อยู่ที่ไหน

เจ้าของบ้าน : ฉะ…ฉันไม่รู้จริงๆว่าเขาเป็นใคร ฉะ…ฉันคิดว่า นายเข้าผิดบ้านแล้วล่ะ

Logan : งั้นเอาใหม่ละกัน แกอาศัยอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว

เจ้าของบ้าน : สะ-15 ปี ได้โปรด ได้โปรดอย่ายุ่งกับครอบครัวของผมเลยนะ

Logan ได้คำตอบที่เขาต้องการแล้ว แต่เขาก็ต้องผิดหวังเช่นกัน จากนั้นเขาจึงรีบออกไปทันที


จากนั้นเขาก็ลองไปโทรศัพท์หาเพื่อนๆดูแต่ก็ไม่ได้เรื่องอะไรเพิ่มเติมแม้แต่น้อย แล้วเขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังแกล้งคนที่อ่อนแอกว่าเขาจึงเดินออกไป และเรียกกรงเล็บของเขาออกมา


วันถัดมา New York City

Logan เดินทางมาถึงและเดินเข้าไปในตึกที่เขามั่นใจว่าเป็น Avengers Tower และเดินเข้าไปด้านในเพื่อติดต่อประชาสัมพันธ์

Operator : ยินดีต้อนรับสู่ สตาร์ก ทาวเวอร์ ค่ะ จะให้ฉันช่วยอะไรมั้ยค่ะ

Logan : โทนี่ สตาร์กใช่มั้ย

Operator : ขอโทษค่ะ ว่ายังไงนะคะ

Logan : แค่บอกหมอนั่นว่า…

Operator : ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่ว่าเขาไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองนี้ เขาแค่เป็นเจ้าของตึกเท่านั้นค่ะ

Drew : นายต้องการอะไรจากโทนี่ สตาร์กงั้นเหรอ เจมส์ หัวหน้าต้องการตัวนายกลับไปนะ และพวกเขาบอกว่าจะใช้วิธีไหนก็ได้ด้วยสิ


Logan : เจ้าหน้าที่ ดรูว์…

เมื่อเขาหันหลังกลับไปคือสมาชิกหน่วยชิลด์ที่มาจับกุมเขากลับไป ประกอบด้วย Rogue, Toad, Nightcrawler, Spider Woman (Jessica Drew) และ Mystique

Drew : นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกับคุณกันแน่ เจมส์

Rogue : นายทำให้พวกเราตกใจนะ พ่อหวานใจ

Toad : พวกเราเป็นเพื่อนร่วมทีมของนายนะ ถ้ามีอะไรละก็…

Mystique : ถึงศูนย์บัญชาการหน่วยชิลด์ นี่คือ เรดการ์ด เจ้าหน้าที่ ดาร์คโฮล์ม เราได้ตัวเขาแล้ว โอเคทราบแล้ว เจมส์ นี่จริงจังนะ ทำตามที่เจ้าหน้าที่ ดูรว์บอกโอเคมั้ย

Logan ยังงงๆปนอึ้งอยู่

Mystique : เขาเหมือนน็อตหลุดเลยนะ

Nightcrawler : แย่จังนะนั่น

Mystique : เจมส์ พวกเราจะพาตัวคุณกลับไปยังศูนย์บัญชาการนะ อย่าทำตัวบ้าๆในที่สาธารณะแบบนี้ พวกเราคุมไม่ได้ทั้งหมดหรอกนะ

Drew : อย่าทำตัวเหมือนพวกกุ้ยข้างถนนน่า ออกไปจากที่นี่กันเถอะ

Logan : นี่พวกเธอหาฉันเจอได้ยังไงกัน

Drew : ก็บนตัวนายมีเครื่องติดตามอยู่ไงเล่า นายก็รู้หนิ นี่ฉันคิดว่าเขาน๊อตหลุดจริงๆนะเนี่ย

Logan : ก็คงงั้น


Logan หันไปตอบและศอกเข้าที่หน้าทันที และเริ่มออกวิ่งไป

Rogue : เขาอัด ดรูว์ ร่วงไปแล้ว!! เราต้องการกำลังเสริม!!

Mystique : แมร่งเอ๊ย

Nightcrawler หายตัวมาดักด้านหน้าและ Rogue ก็ตามมาดักที่ด้านหลัง

Nightcrawler : ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าฉันจะได้เห็น…

Rogue : ไม่เอาน่านายกำลังจะพังสิ่งของในนี้นะ

แต่ Logan ไม่สนใจและปัด Nightcrawler ร่วงไปหา Rogue ทันที

Mystique : เจมส์คุณหนีพวกเราไม่พ้นหรอกนะ


Logan ยังคงวิ่งต่อไป และพุ่งทะลุกระจกออกมาเพื่อไปที่มอเตอร์ไซต์ที่เขาจอดทิ้งไว้ โดยมี Mystique ไล่ยิงออกมา แต่สายไปแล้วเขาบิดมอเตอร์ไซต์หนีได้ทัน ด้าน Nightcrawler ก็หายตัวตามเขาจนทัน แต่จู่ๆเขาก็โดนยิงใส่


ที่หลังเขาถูกปักด้วยธนูจำนวนมาก

Nightcrawler : อั๊กกก ฉันร่วงแล้ว อ๊ากกก ฉันโดนยิง

Logan ยังคงบิดมอเตอร์ไซต์หนีต่อไป จนพบเข้ากับใครคนหนึ่งที่ยืนรอเขาอยู่ และนั่นคือ Cloak เขาเปิดตัวและรับ Logan ให้หายเข้าไปภายในตัวเขา


และหลุดมาโผล่ที่รังของ Luke Cage

Luke Cage : สงบสติอารมณ์ก่อนพ่อมิวแทนส์

Logan : เคจเหรอ

Luke Cage : นี่แกรู้จักฉันเหรอ

Logan : นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นว่ะเนี่ย

Luke Cage : ก็ดีใจที่ได้คุยกับแกนะ แต่ตอนนี้แกต้องจัดการเครื่องติดตามตัวของแกก่อนนะ

Logan : นี่มันห่าอะไรว่ะเนี่ย

Luke Cage : จัดการตัวติดตามที่อยู่บนคอแก หรือจะให้พวกเราทำให้ล่ะ

??? : นายได้ยินที่เขาพูดแล้วนี่


Hawkeye : ทำมันซะ

Hawkeye ที่น่าจะตายไปแล้วกลับมายืนอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง

ติดตามตอนต่อไป


สปอยโดย : Bank-Genesis //เท่านั้น ผมแค่ทำการรีรูปใหม่นะครับ



House of M #2



House of M #2
เรื่อง : Brain Michael Bendis
ภาพ : Olivier Coipel

ขอต้อนรับสู่โลกของมิวแทนส์ House of M


ที่ Bronx ปัจจุบัน

ชายแก่คนหนึ่งเดินลงมาด้านล่าง และเปิดตู้จดหมายเพื่อรับซองจดหมายที่จ่าหน้าถึงเขา ใช่แล้วเขาคือ Steve Roger หรือ Captain America นั่นเองบัดนี้เขาไม่มีพลังพิเศษอะไรเป็นแค่ชายแก่ธรรมดา ที่ด้านนอกเหล่ามิวแทนส์ต่างใช้ชีวิตประจำวันกันตามปกติ ปะปนไปกับเหล่าผู้คนธรรมดา จนเหมือนทั้งสองเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และ Steve ก็เหลือบมองดูกลุ่มเด็กๆที่กำลังเล่นกัน ด้วยสายตาอันอ่อนโยนก่อนจะเดินจากไป


Hartford Connecticut

Scott Sumber ตื่นเช้าขึ้นมาในห้องและชงกาแฟไปพลางฟังวิทยุรายงานข่าวหนังดังประจำประจำสัปดาห์ไปพลาง ซึ่งหนังเรื่องนี้คือ “Funny Valentine” ซึ่งนำแสดงโดย Mary Jane Watson และจากนั้น Emma ก็เดินออกมาจากห้องนอน ทั้งสองตอนนี้เป็นคู่รักและอยู่ด้วยกัน ซึ่งในวันนี้ Emma จะต้องไปพบกัน เด็กชาย Richard ซึ่งครอบครัวของเขาที่เป็นนักบินอวกาศได้ตายไป เธอจึงต้องไปช่วยเหลือเขา และที่ด้านนอกก็มีหุ่น Sentinel กำลังบินอยู่


Los Angeles

ที่รายการข่าววันนี้ได้รับเกียรติจากแขกพิเศษนั่นคือ Simon William (Wonderman) ซึ่งเธอถาม Simon ถึงเรื่องของคนที่เขาขึ้นปกถ่ายนิตยสารด้วยกันแทบจะทุกครั้ง นั่นคือตกลงเขากับ Carol Danvers (Ms.Marvel) คบกันหรือเปล่านั่นเอง


และตอนนี้ Ms.Marvel ก็กำลังปฏิบัติหน้าที่ของเธออยู่ และด้านล่างก็มีคน 2 สองทำการปล้นธนาคาร และ 1 ในคนร้ายคือคนที่ใช้ ไพ่เป็นอาวุธ ซึ่งเราอาจจะคุ้นๆกับคนคนนี้ แต่แล้วคู่หูของเขาก็รู้ตัวว่าเจอปัญหาเข้าให้แล้ว


และนั่นคือ Ms.Marvel นั่นเองที่ลงมาหยุดรถทั้งคู่ไว้ จนรถปลิวกระเด็นไปและคนขับสลบเหมือดส่วนอีกคนยังพอมีสติอยู่จึงปาไพ่ระเบิดใส่เธอ ใช่แล้วโจรคนนี้ก็คือ Gambit นั่นเอง


แต่ Ms.Marvel ก็หลบไพ่ได้ทั้งหมดก่อนจะบินมาจับตัวเขาไปปาใส่อนุสาวรีย์อันหนึ่งจนสลบเหมือดไปอีกคน แล้วเธอจึงบินขึ้นไปก่อนที่ตำรวจจะมาถึง และอนุสาวรีย์นั่นก็คือหัวของ Sentinel รุ่นเก่านั่นเอง


Cincinnati รัฐ Ohio

อาจารย์ Kitty Pride กำลังทำการสอนเหล่ามิวแทนส์เด็กๆอยู่ (ไม่แน่ใจว่า Silver Suffer หรือ Iceman อยู่ในนี้ด้วย) ซึ่งเธอถามคำถามว่าใครคือ มิวแทนส์ที่ถือกำเนิดเป็นคนแรก และคำตอบก็คือ Namor นั่นเอง ซึ่งดูเหมือนเด็กในห้องจะไม่สนใจกันเท่าไรนัก


Hell Kitchen , New York

มีชายผิวสีเดินเข้ามาภายในเพื่อมาหาบอสของที่นี่ นั่นคือ Luke Cage และคนที่มาก็คือ นักสืบ Sam Wilson (Falcon)


และที่เขามาเพื่อถาม Luke Cage ว่ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับ Wilson Fisk (Kingpin) เมื่อคืนหรือเปล่า แต่ก็โดน Luke Cage เฉไฉไปเรื่อย และที่ Sam อุตส่าห์ถ่อมาถามเพราะเขาสงสัยว่า Luke Cage จะเป็นตัวการที่ทำให้ตอนนี้ Kingpin อยู่ในอาการโคม่า ซึ่ง Luke Cage ก็ขอปรบมือให้กับคนที่ทำ แต่ตัวเขาบอกว่าตัวเองนั้นนอนหลับสนิทเมื่อคืน และ Sam จะซักไซ้ต่อก็ได้…ถ้าคิดว่าเขาทำได้


ที่ห้องทำงานของ Dr.Strange

Dr.Strange กำลังทำการรับคำปรึกษาของชายที่ชื่อ Robert ซึ่งดูเหมือนเขากำลังมีปัญหากับสภาพจิตของตัวเอง ซึ่งเขาเล่าว่าในวันนี้เขาอยู่กับลูกชายที่สวนสาธารณะ


แต่จู่ๆก็มีเงามืดคืบคลานเข้ามา และรถปลิวออกมาว่อน เขาจึงพุ่งเข้าไปเอาตัวบังลูกชายไว้ แต่เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีมันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แต่เขารู้สึกว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ Dr.Strange จึงไล่เลียงถามความรู้สึกของเขาต่อเรื่องที่เกิดขึ้น


Russia

Colossus กำลังทำฟาร์มของเขาอย่างมีความสุข


Chicago

แล๊บวิทยาศาสตร์ชั้นใต้ดิน Henry McCoy คุยกับ Hank Pim ซึ่ง Henry บอกว่า Hank อาจจะถูกไล่ออกโดย Tony Stark  เพราะการทดลองของเขามันออกไปในแนวทางต่อต้านการกลายพันธุ์ และ Tony ก็เตือนเขาไปแล้ว Henry จึงเตือนเขาอีกครั้งว่า Tony เป็นคนยังไง และถ้าเขายังดื้อดึงทำสิ่งที่หมอนั่นไม่ชอบอีก เขาคงจะถูกๆไล่ออกจริงๆแน่ ซึ่งตอนนี้พวกคนธรรมดานั้นหางานทำได้ยากอยู่ด้วย


ทำเอา Hank เงียบไปเลย จน Henry ต้องปลอบเขาและชวนไปดื่มกาแฟคลายเครียดกัน


ที่ฝรั่งเศส กรุงปารีส

ราชินี Storm จาก Wakandan เดินทางมาลองเสื้อที่ร้านของ Janet ซึ่งเธออยากจะใส่เสื้อที่เทียบกับพวก House of Magnus ได้


ส่วน Wolverine กลับได้พบกับฝันร้ายที่เกี่ยวกับการกำเนิดของเขา ทำให้เขาตื่นขึ้นมาและมองเห็น Jean อยู่ตรงหน้า


แล้ว Wolverine ก็เข้าไปหาเรื่องทันที

Wolverine : นี่มันบ้าอะไรว่ะเนี่ย นี่มันอะไรกัน

Jean : James??

แล้วเขาก็รู้สึกตัวว่าคนตรงหน้าไม่ใช้ Jean จริงๆ แต่เป็น Mystique ที่เปลี่ยนร่างตัวเอง

Mystique : แค่กๆ เมื่อคืนนายก็ไม่ได้คิดมากนี่  เธอเป็นแม่หัวแดงยอดรักของนายไม่ใช่หรือไงกัน

Mystique : โอ๊ย พระเจ้า นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกับคุณเนี่ย

Wolverine ที่ยังมึนงงก็รีบวิ่งออกมาจากห้องและพบเข้ากับอีก 2 คน นั่นคือ Toad และ Psylocke ซึ่งสังเกตได้ว่าเขาแปลกๆไป ทำเอา Wolverine งงกว่าเดิม จนต้องรีบวิ่งออกไปข้างนอก


และเขาก็พบว่าตัวเองอยู่บน Helicarrier ท่ามกลางกองทัพล้อมรอบ อีกทั้งยังมีเซนติเนลอีกด้วย และกองยานเหล่านี้ต่างประดับด้วยธง และสัญลักษณ์ที่ดูค้นตา ใช่แล้วนี่คือ  โลกของ

ติดตามตอนต่อไป


สปอยโดย : Bank-Genesis //เท่านั้น ผมแค่ทำการรีรูปใหม่นะครับ